ภูทอก

ภูทอก

จ.บึงกาฬ

หน้าฝนนี้ ยังมีอีกที่ ที่ไม่ควรพลาด กับภูทอก จ.บึงกาฬ ดินแดนมหัศจรรย์ จากศรัทธาสู่สถาปัตยกรรมกับความสวยงามของภูเขา 7 ชั้น ที่ตั้งของวัดเจติยาคีรีวิหาร เที่ยวชมความงามสุดอลังการของน้ำตกถ้ำพระ น้ำตกขนาดใหญ่ 3 ชั้น ที่ไหลอยู่บนภูเขาหินทรายลวดลายสวยงามแปลกตา และไปชมความโดดเด่นของลานธรรมภูสิงห์ลานธรรม หินทรายสีแดงขนาดใหญ่ รูปร่างลักษณะคล้ายกับสิงโตหมอบล้อมรอบพระพุทธรูป “หลวงพ่อพระสิงห์” ตั้งอยู่อย่างสวยงาม

49.ภูทอก 2-ภูทอก
49.ภูทอก 1-ภูทอก
49.น้ำตกเจ็ดสี-ภูทอก

@ภูทอก จ.บึงกาฬ

2 วัน 1 คืน

วันที่หนึ่ง
เช้า พร้อมกันที่ภูทอก พักผ่อนพร้อมชมทะเลหมอกอันงดงาม
ติดต่อที่พักกับศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เพื่อเช็คอินพร้อมนำสัมภาระไปเก็บ
กลางวัน พักผ่อนตามอัธยาศัย ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจบริเวณที่พัก เดินเที่ยวที่จุดชมวิวต่าง ๆ เดิมชมความสวยงามของธรรมชาติป่าไม้ และอื่น ๆ
เย็น รับประทานอาหาร พร้อมสัมผัสกับบรรยากาศยามค่ำคืนของภูทอก
วันที่สอง
เช้า ตื่นแต่เช้ารับอากาศเย็นสดชื่น ชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมเก็บภาพความสวยงามของทะเลหมอก
ลงมาด้านล่างเพื่อเดินชมตลาดพร้อมรับประทานอาหารเช้า
กลางวัน พักผ่อนตามอัธยาศัย ไม่ว่าจะเดินเล่นเก็บภาพบรรยากาศ วิวทิวทัศน์ หรือลงไปซื้อของฝากที่ตลาดด้านล่าง
เย็น เตรียมพร้อม จดจำเรื่องราวดี ๆ พร้อมเดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ

เส้นทางใกล้เคียง (นครพนม-บึงกาฬ)

3 วัน 2 คืน

วันที่หนึ่ง
เช้า สวัสดียามเช้ากันที่นครพนม หลังจากแวะเติมพลังกับอาหารเช้าที่นครพนมก็เดินทางกันต่อแบบชิลล์ ๆ
เพื่อความเฮงแวะไหว้พระธาตุพนมกันก่อนเพื่อเป็นสิริมงคล เป็นพระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดวันอาทิตย์
ชมความงามสง่าขององค์พระธาตุแล้วไปกันต่อ ที่พระธาตุเรณูนคร ซึ่งไม่ไกลจากพระธาตุพนม
แล้วชมความ Unseen จากต้นไม้ยักษ์ วัดจอมศรี ต.นามะเขือ นครพนม โลเคชั่นลับที่น้อยคนนักจะรู้จัก นั่นคือ ต้นจามจุรี หรือต้นก้ามปูยักษ์ อายุ 200 ปี
กลางวัน จากนั้นเที่ยวชมอนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์ เมื่อปี 2557 ให้จังหวัดนครพนมและสมาคมไทยเวียดนาม เพื่อสร้าง บนเนื้อที่ 7 ไร่ เพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่ประธานโฮจิมินห์ รวมถึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์
พักรับประทานอาหารเที่ยงรสแซ่บ อาหารอีสานรสเด็ด
ต่อเนื่องด้วยการชมบ้านลุงโฮ ที่ในอดีตเป็นบ้านพักที่ประธานโฮจิมินห์ใช้เป็นฐานที่มั่นในการวางแผน ระดมความคิดพี่น้องชาวไทยเชื้อสายเวียดนามก่อนกลับไปกอบกู้เอกราช ในช่วงปี 2471-2472
แวะจิบกาแฟและขนมอร่อยที่อยู่ติดริมโขง ชมวิวแม่น้ำโขงและดื่มด่ำกับขนมอบและกาแฟหอม ๆ แบบฟิน ๆ
เย็น เข้าที่พัก พักผ่อนสักครู่ แล้วลงมารับประทานอาหารเย็นสุดหรู เมนูหลากหลายโดยเฉพาะปลาแม่น้ำโขง เดินเล่นชมพญาศรีสัตตนาคราช แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของนครพนม ประดิษฐานบน ริมฝั่งแม่น้ำโขง เป็นองค์พญานาคทองเหลืองที่ใหญ่ที่สุดของภาคอีสาน และแวะตลาดคนเดิน ฟังดนตรี ชิมอาหารอร่อย ชอปปิ้งสินค้าพื้นเมืองกันอย่างจุใจ
กลับเข้าที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัยในที่พักสุดพิเศษ วิวสวย ๆ ริมแม่น้ำโขง
วันที่สอง
เช้า ตื่นเช้ารับประทานอาหารเช้าแบบเต็มอิ่ม ทั้งอาหารและวิวสวยริมแม่น้ำ
ใส่บาตรริมโขง ทำบุญยามเช้ากับอากาศดี ๆ และ บรรยากาศสวย ๆ ก่อนมุ่งสู่บึงกาฬ
จุดหมายแรกคือภูทอก ขึ้นสะพานไม้และบันไดขึ้นชมทัศนียภาพรอบ ๆ ภูทอก ที่ใช้เพียงแรงงานคนสร้างบันได เวียนไปมา รอบภูทอกแบบ 360 องศา ซึ่งมีทั้งหมด 7 ชั้น ใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 5 ปีเต็ม
กลางวัน รับประทานอาหารเที่ยงพร้อมดื่มด่ำกับวิวสวยภูทอก
เดินทางต่อไปที่หินสามวาฬ  จุดชมวิวที่งดงามและแปลกตาที่สุดแห่งหนึ่งจุดชมวิวให้แวะถ่ายรูป ก่อนถึงหินสามวาฬ พร้อมวิวบึงกาฬ และเห็นฝั่งลาวไกล ๆ
ระหว่างทางกลับแวะให้ถ่ายรูปกับประตูภูสิงห์ เป็นจุดที่มีหินใหญ่สองก้อนตั้งอยู่ริมหน้าผา ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับช่องเขาที่สวยงาม แวะจุดที่ลึกที่สุดในแม่น้ำโขงคือ ลึก 200 เมตร เรียกกันว่า สะดือแม่น้ำโขง มีตำนานเรื่องเป็นจุดรวมของเหล่าปลาบึกยักษ์และชุมนุมพญานาคในช่วงวันออกพรรษา
เย็น กลับมาเดินเล่นริมโขง ดื่มกาแฟนั่งมองวิวริมโขงกับคาเฟ่น่ารัก ๆ
กลับที่พักรับประทานอาหารเย็น และพักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่สาม
เช้า ตื่นเช้าด้วยพลังเต็มเปี่ยม จิบกาแฟมองวิวโขงช้า ๆ เรื่อย ๆ พร้อมอาหารเช้าแบบจัดเต็ม
แวะเที่ยวที่ อุโมงค์นาคราช เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่สำคัญของเส้นทางจักรยานริมแม่น้ำโขง จังหวัดนครพนม
กลางวัน ระหว่างทางกลับ แหล่งเรียนรู้รอยเท้าไดโนเสาร์ เป็นรอยเท้าไดโนเสาร์ขนาดเล็ก กลุ่มออนิโธมิโนซอร์ ลักษณะคอเรียวเล็กยาว เดินด้วยสองขา มีนิ้วเท้าสามนิ้วคล้ายนกกระจอกเทศ เกือบ 200 รอย
แวะซื้อของฝาก สินค้าพื้นเมือง และอาหารอีสานแซ่บ ๆ
เย็น รับประทานอาหารเย็นมื้อส่งท้ายก่อนกลับ
เดินทางกลับด้วยความประทับใจ