ป่าฮาลาบาลา

ป่าฮาลาบาลา

จ.นราธิวาส

ป่าฮาลาบาลา จ.นราธิวาส เป็นอีกปลายทางในหน้าฝน ที่คุ้มค่ากับการดั้นด้นมาถึง เพื่อที่จะได้เห็นและสัมผัสความอุดมสมบูรณ์ของพันธุ์ไม้ และสัตว์ป่าหายากหลายชนิดนอกจากนั้นแล้วในหน้าฝนสามารถเห็นทะเลหมอกที่ก่อตัวเป็นสีขาวนวล ได้ที่ผานับดาว จุดที่สามารถมองเห็นเทือกเขาสันกาลาคีรีและเทือกเขาบูโดรวมถึงวิวเมืองสุคิริน ในที่เดียวกัน ปิดท้ายที่น้ำตกฮาลาซะห์นอกจากน้ำตกที่ชุ่มฉ่ำ ที่นี่ยังเหมาะสำหรับการดูนกเงือกอีกด้วย

11.น้ำตกสิรินธร-ป่าฮาลาบาลา
11.ป่าฮาลาบาลา 1-ป่าฮาลาบาลา
11.ป่าฮาลาบาลา 2-ป่าฮาลาบาลา

@ป่าฮาลาบาลา จ.นราธิวาส

2 วัน 1 คืน

เช้า พร้อมกันที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลาบาลา ชมความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าดิบชื้นขนาดใหญ่ ส่องสัตว์ป่านานาชนิด แวะถ่ายรูปกับต้นสมพงยักษ์กลางป่า
ตื่นตาตื่นใจกับจุดชมนกเงือกหัวแรด นกเงือกขนาดใหญ่ ลำตัวยาวกว่า 120 เซนติเมตร สัตว์ป่าคุ้มครอง ที่จะออกมาให้ยลโฉมและถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก
กลางวัน สัมผัสธรรมชาติรอบป่า ดื่มด่ำกับบรรยากาศล่องเรือ ชมทะเลสาบฮาลาบาลา มองเห็นสัตว์ป่าน้อยใหญ่ อย่าง กระทิงป่า ลิงป่า หมูป่า และนกหลากสายพันธุ์
ผ่อนคลายสบาย ๆ รับประทานอาหารว่าง ถ่ายรูปธรรมชาติ บริเวณหน้าทะเลสาบฮาลาบาลา
แวะเที่ยวเกาะทวด เกาะน้ำจืดขนาดเล็ก กลางทะเลสาบฮาลาบาลา บนเกาะเป็นที่ประดิษฐานหลวงปู่ทวด เป็นที่นิยมของชาวมาเลย์และสิงคโปร์ที่มาไหว้พระ และมักได้เลขสวย ๆ ไปเสี่ยงโชคกันเยอะ หากมีเวลา สามารถเล่นเรือคายักและเล่นน้ำที่เกาะนี้ได้
เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ ที่ชุมชนจุฬาภรณ์พัฒนา 9 สถานที่แสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ เครื่องมือ เครื่องใช้ และอนุสาวรีย์วีรชน
เย็น กลับที่พัก และพักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่สอง
เช้า ตื่นแต่เช้ามืด เพื่อไปสัมผัสบรรยากาศวิวทะเลหมอกขาวโพลน ปกคลุมทั่วเขาหินโยก สวยที่สุดในย่านนี้ บอกเลยว่าสวยงาม อลังการ ไม่แพ้ดอยแถบภาคเหนือ
ระหว่างทางลงเขา แวะถ่ายรูปสวย ๆ ได้ตลอดทาง อย่าลืมแวะถ่ายกับวิวหินโยกของจริง ก่อนรับประทานอาหารเช้า
กลางวัน

 

เติมพลังยามบ่าย เริ่มเช็กอินจุดต่อไปกับเส้นทางธรรมชาติ เยี่ยมเยือนน้ำตกฮาลาซะห์ สูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด เพราะมีแต่ต้นไม้สีเขียว ทั้งน้อยใหญ่ละลานตา และน้ำใสไหลเย็นสดชื่น
เดินตามเส้นทาง แวะชมฟาร์มกวางของชุมชน พบกับความน่ารัก และได้ใกล้ชิดกวางป่าตัวจริง
ล่องเรือเข้าสู่ป่าฮาลาบาลาอีกครั้ง เพื่อเก็บบรรยากาศต่อเนื่องจากวันแรก ถ่ายรูปบริเวณทุ่งกระทิงเดิม ซึ่งมีต้นไม้ใหญ่ชูกิ่งก้านอยู่เหนือทะเลสาบโดดเด่นเพียงต้นเดียว ชมใบไม้เปลี่ยนสีและสีสันของดอกไม้ป่าที่สวยงาม
ชมป่าต้นน้ำหรือคลองน้ำใส ซึ่งไหลลงมาจากป่าฮาลาบาลา เพื่อเติมเต็มเขื่อนบางลาง
แวะชมเขื่อนบางลาง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของแม่น้ำปัตตานี และเดินชิลถ่ายรูปเล่น บนสะพานหงสกุล สะพานประวัติศาสตร์ข้ามแม่น้ำปัตตานี ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง
เย็น จบทริปธรรมชาติ บนผืนป่าฮาลาบาลาอย่างสวยงาม พร้อมเดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ

เส้นทางใกล้เคียง (ปัตตานี-นราธิวาส)

3 วัน 2 คืน

วันที่หนึ่ง
เช้า พร้อมกันที่ จ.ปัตตานี เดินทางไปยังทริปแรก “หอดูนก” เป็นป่าชายเลน มีหอคอยที่สร้างไว้ดูนกสูงขึ้นมาเหนือยอดไม้ทุกต้น เหมาะแก่การถ่ายรูป
ต่อกันที่ สะพานไม้ปัตตานี เป็นสะพานเดินทอดยาวไปถ่ายรูปสวย ๆ บรรยากาศรายล้อมด้วยทะเล
กลางวัน แวะถ่ายรูป วัฒนธรรมชาวมุสลิม ที่ “มัสยิดกลางปัตตานี” ใหญ่โต โอ่อ่า สีสันสวยงาม สามารถรอถ่ายรูปได้ถึงเย็น เพราะช่วงค่ำ ภาพจะสวยไปอีกแบบ
เย็น พักผ่อนตามอัธยาศัย และเข้าที่พัก เตรียมสำหรับเช้าวันใหม่
วันที่สอง
เช้า ตื่นเช้า เยี่ยมชม “แหลมตาชี” หาดที่เต็มไปด้วยต้นสน ถ่ายรูปเก็บไว้ชิคๆ ไว้อัพโซเชียล
กลางวัน ไปต่อกันที่ อุทยานแห่งชาติน้ำตกทรายขาว แวะเติมพลัง และเข้าสู่น้ำตกทรายขาว น้ำตกสวยงาม น้ำใสเย็นให้ความสดชื่น
เดินทางไปยังจุดสำคัญ “สะพานใหม่ สะพานข้ามแม่น้ำฮาลาบาลา” ถ่ายรูปเสร็จแล้ว จากสะพานข้ามทะเลสาบฮาบาลาบาไปยังจุดนัดพบ “สถานีดับเพลิงอัยเยอร์เวง” มีสะพานไม้แขวนข้ามแม่น้ำ ให้ถ่ายรูปได้อีก
เย็น พักผ่อนตามอัธยาศัย และ เข้าที่พัก เตรียมตัวสำหรับเช้าวันใหม่
วันที่สาม
เช้า ตื่นแต่เช้า เดินทางไปยัง จุดยอดสุดของ “กุนุงสิลิปัต” วิวป่า ที่มีทิวเขา มองเห็นแสงตะวันที่งดงาม ใช้เวลาถ่ายรูปให้เยอะที่สุด
กลางวัน เดินทางสู่ “ทะเลสาบฮาลาบาลา” นั่งเรือล่องแม่น้ำ ชมธรรมชาติ มองเห็นผืนป่าที่มีสัตว์นานาพันธุ์ และภูเขารายล้อมป่าสีเขียว  และเข้าไปเที่ยวป่าฮาลาบาลา ถ่ายรูปวิวป่าได้อย่างสวยงาม
เดินทางเยี่ยมชม “อุทยานแห่งชาติในจังหวัดนราธิวาส” สัมผัสบรรยากาศทั้งน้ำตกและทิวสนเรียบชายหาด และสูดอากาศบริสุทธิ์อย่างเต็มอิ่ม พร้อมพักผ่อนตามอัธยาศัย
เย็น จบทริปครั้งนี้ และ เดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ